ฝรั่งเศส – สวิตเซอร์แลนด์ – อิตาลี 11 วัน

(1)          :  กรุงเทพฯ

(2)          :  ปารีส – หอไอเฟล – โบสถ์นอร์ทเทรอดาม – พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ – ล่องเรือบาโต มูช – โบจิวาล

(3)          :  โบจิวาล – มงค์มาร์ต – นั่งรถไฟความเร็วสูง TGV – สตราสบูร์ก 

(4)          :  สตราสบูร์ก – อาคารสภาสหภาพยุโรป – มหาวิหารแห่งสตราสบูกร์ก – กอลมาร์ – ลูเซิร์น

(5)          :  ลูเซิร์น แองเกิลเบิร์ก ยอดเขาทิตลิส – ลูกาโน่

(6)          :  ลูกาโน่  มิลาน – เวนิส

(7)          :  เกาะเวนิส – ล่องเรือกอนโดล่า – โบโลญญ่า

(8)          :  โบโลญญ่า ปิซ่า – หอเอนเมืองปิซ่า– ฟลอเรนซ์ – เลคซิโอเซียนเซียโน่ เทอร์เม่

(9)          :  โรม – มหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ – น้ำพุเทรวี่ – โคลีเซี่ยม

(10)        :  โรม – กรุงเทพฯ

(11)        :  กรุงเทพฯ

รายละเอียด ตารางการเดินทาง

DAY 1

กรุงเทพฯ

21.00 น.         คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินไทยแอร์เวย์

DAY 2

ปารีส – หอไอเฟล – โบสถ์นอร์ทเทรอดาม – พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ - ล่องเรือบาโต มูช – โบจิวาล

00.05 น.         ออกเดินทางสู่ สนามบินชาลเดอโกล โดยเที่ยวบินที่ TG 930         

06.50 น.         เดินทางถึง กรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน บริเวณตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส บนใจกลางแคว้นอีล-เดอ-ฟรองซ์ปารีสเป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่น อีกทั้งยังเป็นเมืองที่สวยที่สุดในโลกสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ทุกคนต่างหลงใหลกับแฟชั่น

แวะถ่ายรูปกับ หอไอเฟล (Eiffel Tower) สัญลักษณ์ของกรุงปารีส อดีตเคยเป็นสัญลักษณ์ของงาน Universal Exhibition ฉลองครบรอบ 100 ปี แห่งการปฏิวัติฝรั่งเศส ออกแบบโดยกุสตาฟ ไอเฟล ที่ ลานทรอดาเคโร ซึ่งท่านจะมองเห็นหอไอเฟล สัญลักษณ์แห่งกรุงปารีสได้ชัดเจนที่สุด ตลอดจนวิวทิวทัศน์ของลานสวนสนามฌองเดอร์มาร์ส

ชม โบสถ์นอร์ทเทรอดาม (NOTREDAME CATHEDRAL)  แปลว่า "OUR LADY” ซึ่งหมายถึงพระแม่มารีนั่นเอง ปัจจุบันมหาวิหาร แบบโกธิคแห่งนี้ใช้เป็นศาสนสถานของนิกายโรมันคาทอลิกและเป็นที่นั่งของอาร์คบิชอปแห่งปารีส

ชม ตึกสภาฝรั่งเศส ลากองเซียจเจอรี่( La Concièrgerie) สถานที่คุมขังพระเจ้า หลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอังตัวเนตต์

ชม พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) หรือ The Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งมีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ราชวงศ์กาเปเซียง เดิมตัวอาคารเคยเป็นพระราชวังหลวง แต่ในปัจจุบันเป็นที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็น จำนวนมากกว่า 35,000 ชิ้น รวมถึง ภาพเขียนโมนาลิซ่า The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ซึ่งเป็นผลงานของเลโอนาร์โด ดาวินซี พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในกรุงปารีสและของโลกด้วย

เที่ยง              รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย                นำท่าน ล่องเรือบาโต มูช (Bateaux Mouches) ไปตามแม่น้ำแซนน์ เพื่อเที่ยวชมเมือง  ปารีส เนื่องจากแม่น้ำแซนตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทำให้การล่องเรือไปตามแม่น้ำนั้นได้พบกับสถานที่ที่สวยงามมากมายที่อยู่ในปารีส อาทิเช่น หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟ โบสถ์โนตเตรอดาม และสะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 เป็นต้น

นำท่านชม ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกลล์ (Place Charles de Gaulle) หรือเป็นที่รู้จักกันในนามจัตุรัสแห่งดวงดาว

ชม จตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) มีเสาโอบิลิสก์ตั้งอยู่ตรงกลางจัตุรัสซึ่งถูก นำมาจากสุสานของฟาโรห์รามเซสที่ 2 ในเมืองลักซอร์ ประเทศอียิปต์ และขนย้ายมา  ตั้งไว้ที่นี่ในปี 1836   ทั้งยังเคยเป็นฉากเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย

ชมบรรยากาศย่านชองเซลิเซ่ ถนนสายโรแมนติกชองป์เอลิเซ่ (Champs Elysees) ซึ่งทอดยาวจากจัตุรัสคองคอร์ดตรงสู่ประตูชัย นโปเลียน,เป็นถนนที่กล่าวกันว่าสวยที่สุดในโลก และรัชกาลที่ 5 ทรงได้เอามาเป็นแบบในการสร้างถนนราชดำเนิน ชื่อช็อง เซลีเซ มาจาก “เอลูเซีย” (Elusia) ในภาษากรีก แล้วเรียกเป็นภาษาลาตินว่า เอลีซีอุม แปลว่า เกาะแห่งความสุขสงบ

ค่ำ                 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ออกเดินทางสู่ เมืองโบจิวาล (Bougival)

เข้าสู่ที่พัก        โรงแรม Holiday Inn Paris Versailles Bougival หรือเทียบเท่า

DAY 3

โบจิวาล - มงค์มาร์ต - นั่งรถไฟความเร็วสูง TGV - สตราสบูร์ก

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านสู่ มงค์มาร์ต (Mont Mart) เนินเขาหินปูน ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปารีส เป็นจุดชมวิวรอบกรุงปารีสซึ่งมีชื่อเสียงที่สุด

ชม มหาวิหารพระหฤทัยแห่ง มงค์มาร์ต (La Basilique du Sacre Coeur) ที่สวยงามที่สุดแห่ง

หนึ่งในปารีส เป็นมหาวิหารที่เชื่อกันว่าเก็บดวงใจแห่งพระเยซูเอาไว้ ด้านหน้ามหาวิหารมีรูปปั้นบุคคลสำคัญของประเทศฝรั่งเศส 2 ท่าน ประดับอยู่ ได้แก่ โจนส์ ออฟ อาร์ค และพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 ซึ่งบริเวณด้านหน้าของวิหารจะมีลานศิลปิน (Place du Tertre) ซึ่งบรรดาศิลปินจะมานั่งวาดรูปตามจินตนาการของตนเองหรือตามที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งบริเวณนี้เป็นจุดที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งร้านค้าบริเวณมงค์มาร์ต

ให้ท่านเพลิดเพลินในการช้อปปิ้งสินค้าชั้นนำขอฝรั่งเศส อาทิ เครื่องสำอาง น้ำหอม กระเป๋า สูท เน็คไท นาฬิกา ปากกา เป็นต้น จากร้านค้าปลอดภาษีตามอัธยาศัย

13.00 น.         รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ออกเดินทางสู่สถานีรถไฟ TGV นำท่านนั่งรถไฟความเร็วสูง TGV 2nd Class เพื่อเดินทางสู่ เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.

เดินทางถึง เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg)  เมืองตั้งอยู่ในแคว้นอัลซาสใกล้พรมแดน เป็นเมืองหลวงของสหภาพยุโรป (European Union) และตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างปารีสกับปราก

ค่ำ                 รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เข้าสู่ที่พัก        โรงแรม Mercure Strasbourg Gare Centrale หรือเทียบเท่า

DAY 4

สตราสบูร์ก - อาคารสภาสหภาพยุโรป – มหาวิหารแห่งสตราสบูกร์ก – กอลมาร์ – ลูเซิร์น – สะพานไม้ชาเปล - อนุสาวรีย์สิงห์โต

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ชม อาคารสภาสหภาพยุโรป (European Union Parliament) ที่สวยงาม อาคารสถานีรถไฟที่ออกแบบอย่างทันสมัย / ชม ย่านเมืองเก่าล้อมรอบด้วยคลอง จึงทำให้มีทัศนียภาพที่สวยงาม

ชม มหาวิหารแห่งสตราสบูกร์ก (Cathedrale Notre Dame De Strasbourg) เป็นมหาวิหารแห่งแรกของฝรั่งเศสที่สร้างขึ้นมาในรูปแบบสไตล์โกธิก(Gothic) สถาปัตยกรรมจากยุคกลางแห่งนี้ได้รับการจดขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกว่าคือวิหารที่มีความสูงที่สุดในยุโรปแถบตะวันตกโดยองค์กรยูเนสโกมาแล้ว / ออกเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar)

นำท่านชม เมืองกอลมาร์ (Colmar) เมืองที่เป็นศูนย์กลางเส้นทางไวนน์ของแคว้นอัลซาส กอลมาร์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในอัลซาส / ชม บ้านเรือนที่มีเอกลักษณ์แบบอัลซาลและเบอร์กันเดี่ยน ตั้งแต่ศตวรรตที่ 16 ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอย่างสวยงาม ได้ชื่อว่าเป็นเวนีสน้อย (Petite Venice) ในอดีตชาวเมืองใช้แม่น้ำเหล่านี้ เป็นเส้นทางในการขนส่งไวน์ออกไปจำหน่าย     ชม ย่านเมืองเก่า, ศาลาว่าการประจำเมือง, โบสถ์ และย่านการค้าที่น่ารักสวยงามน่าประทับใจ

เที่ยง              รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ออกเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (LUCERNE) อดีตหัวเมืองโบราณของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ สะพานไม้ชาเปล (CHAPEL BRIDGE) เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี ทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ มุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ ที่จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเป็นเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายอย่างมากใน ค.ศ. 1993 แต่ได้รับการซ่อมแซมใหม่จนอยู่ในสภาพที่ดีเหมือนเดิม

นำท่านชม อนุสาวรีย์สิงห์โต (LION MOUIMENT) อนุสาวรีย์รูปสิงห์โตหิน สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์และจงรักภักดี ที่เสียชีวิตไปในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวัง ในคราวปฏิวัติใหญ่ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ.1792 ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แกะสลักอยู่บนหน้าผา ลักษณะนอนหมอบ มีหอกปักอยู่กลางหลัง สีหน้าแสดงความเจ็บปวดและเศร้าสร้อย ที่หัวของสิงห์โตจะมีโล่ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเซ้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ.1819 -1821

ค่ำ                 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

เข้าสู่ที่พัก             โรงแรม Astoria Lucerne หรือเทียบเท่า

DAY 5

ลูเซิร์น - แองเกิลเบิร์ก - ยอดเขาทิตลิส – ลูกาโน่

เช้า                รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ออกเดินทางสู่ เมืองแองเกิลเบิร์ก (Engelberg) เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ติดกับเทือกเขาแอลป์ทางตอนกลางของสวิต และมีชื่อเสียงโด่งดังมากในเรื่องของ Mountain Resort และยังเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายที่ เช่น ยอดเขา Titlis ด้วยเหตุนี้ทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาพักผ่อนที่ Engelberg

เดินทางสู่ ยอดเขาทิตลิส (Mount Titlis) เป็นยอดเขาที่มีความสูงถึง 3,238 เมตร และมีหิมะปกคลุมยอดเขาตลอดทั้งปี ในหน้าหนาวถือว่าเป็นอีกที่หนึ่งที่คนนิยมมาเล่นสกี เอกลักษณ์ของ Titlis นั้นอยู่ที่กระเช้าที่ใช้ขึ้นไปบนยอดเขานั้นหมุนได้ 360 องศา และก็เป็นแห่งแรกของโลกอีกด้วย ทำให้ระหว่างทางขึ้นไปบนยอดเขานั้นสามารถเห็นวิวรอบได้อย่างชัดเจน โดยไม่ต้องหันไปหันมา บนยอดเขา Titlis อยู่สูงกว่าระดับเมฆ ทำให้ในวันที่อากาศดีๆ นั้นสามารถมองท้องฟ้าสีคราม

เที่ยง              รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               ออกเดินทางสู่ เมืองลูกาโน่ (Lugano) เมืองทางตอนใต้สุดของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นเมืองตากอากาศที่ถูกโอบกอดโดยเทือกเขา และทะเลสาบ อันเป็นบรรยากาศที่สุดแสนสบาย และเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ

นำท่านช้อปปิ้ง Fox Town Outlet สวรรค์สำหรับนักช้อปซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองแมนดริสสิโย (Mendrisio Ticino) เป็นเอ๊าท์เลทใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์รวมร้านค้ากว่า 130 ร้าน และสินค้าคุณภาพดี อาทิเช่น ของใช้ในครัวเรือน, ผลิตภัณฑ์เครื่องหนังอิตาลี, รองเท้า กระเป๋า อุปกรณ์กีฬา แฟชั่นแบรนด์แนมชื่อดังอาทิ เช่น Adidas, Burberry, Calvin Klein, Diesel, D&G, DIOR, Ferrari, GEOX, GUCCI, Guess, HUGO BOSS, Lacoste, LEE, Levis, Lindt Chocolate, NIKE, POLO, Prada, Quiksilver, Ferragamo, Samsonite, Swatch, The North Face, Timberland, Tommy Hilfliger, Yves Saint Laurant และอื่นๆอีกมากมาย

ค่ำ                 รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เข้าสู่ที่พัก             โรงแรม De La Paix Lugano หรือเทียบเท่า

DAY 6

ลูกาโน่ - มิลาน – เวนิส

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ออกเดินทางสู่ เมืองมิลาน (Milan) หรือ มิลาโน่ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่น ศิลปะ และเครื่องหนัง เป็นเมืองแห่งแฟชั่นสำคัญเมืองหนึ่งของโลก ในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน “มิลาน”เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดียในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี มีประชากรประมาณ 1,308,500 คน

แวะถ่ายรูปกับ ดูโอโม่ (Duomo) หรือ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (เป็นโบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในยุโรป) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เริ่มสร้างเมื่อเมื่อปี ค.ศ.1386 แต่งานเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1813 รวมระยะเวลาการก่อสร้างกว่า 427 ปี  การตกแต่งภายนอกเป็นหลังคายอดเรียวจำนวน 135 ยอด และมีรูปปั้นหินอ่อนจากทุกยุคทุกสมัยกว่า 2,245 ชิ้น บนยอดของวิหารมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตร (13 ฟุต) ของพระแม่มาดอนน่าซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ นักประพันธ์ชาวอังกฤษ ดี เอช ลอว์เรนซ์ เรียกวิหารดูโอโม่ว่าเป็น “วิหารที่สร้างเลียนแบบเม่น

อิสระให้ท่านช้อปปิ้ง แกลเลอเลีย วิตตอริโอ เอมานูเอเล 2 (Gallerlia Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณ ด้านหน้าของโรงละครสกาล่า ท่านจะได้ช้อปปิ้งกับสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิเช่น  LOUIS VUITTON, VERSACE, PRADA, TOD’S เป็นต้น

13.00 น.         รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ออกเดินทางสู่ เมืองเวนิส (Venice) เมืองบนเกาะเจ้าของฉายา “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็ก ๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเอเดรียติกและยังเป็นบ้านเกิดของนักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่มาร์โคโปโล ตัวเกาะเวนิสเองประกอบไปด้วยเกาะกว่า 118 เกาะ เชื่อมต่อกันด้วยลำคลองถึง 150 สาย และสะพานประมาณ 400 สะพาน โดยการเดินทางบนเกาะเวนิสนั้นจะใช้การเดินหรือล่องเรือไปตามลำคลองเท่านั้น

ค่ำ                 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

เข้าสู่ที่พัก        โรงแรม Novotel Venice Mestre Castellana หรือเทียบเท่า

DAY 7

เกาะเวนิส – ล่องเรือกอนโดล่า – โบโลญญ่า

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านสู่ ท่าเรือทรอนเช็ตโต้ เพื่อนั่งเรือสู่เกาะเวนิส ล่องเรือผ่านชมบรรดาบ้านเรือนของนครกลางน้ำแห่งนี้ ที่ตั้งอยู่ตามลำคลองน้อยใหญ่เป็นบรรยากาศที่โรแมนติกอย่างยิ่ง เวนิสสร้างขึ้น บนเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ ที่เชื่อมต่อกันด้วยสะพานหลายร้อยสะพาน จนดูคล้ายเป็นผืนแผ่นดินเดียวกัน / ชมจัตุรัสซานมาร์โค (San Marco) หรือ เซนต์มาร์ค ชุมชนที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะต่างๆ ของเมืองเวนิสที่มีคลองต่างๆ มากมายนับร้อยแห่ง นับเป็นบรรยากาศที่ไม่มีที่ใดเหมือนและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะเมือง / ชมมหาวิหารซานมาร์โค (Basilica di San Marco) เป็นวิหารที่มีชื่อเสียงมากของเมืองเวนิส เป็นตัวอย่างอันสำคัญของสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ / ชมอาคารที่มีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นอย่าง วังดูคาเล (Palazzo Ducale) โดยวังแห่งนี้เคยเป็น ที่พำนักของผู้ปกครองเมืองเวนิสโดยภายในตกแต่งด้วยศิลปะหลายยุคสมัย มีการแบ่งเป็นห้องต่างๆมากมาย ซึ่งแต่ละห้องจะมีการประดับไว้ด้วยภาพวาดโดยศิลปินชาวเวนิสหลายๆท่าน ผ่านชมสะพานถอนหายใจ (Ponte dei Sospiri)

เที่ยง              รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               ครั้งหนึ่งกับการล่องเรือกอนโดล่า (Gondola ride) เอกลักษณ์ของเมือง และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ให้ท่านได้ชมความงามสุดแสนโรแมนติกของเกาะเวนิส เรือไม้ที่เป็นสัญญาลักษณ์ของเกาะเวนิสล่องไปตามลำคลองน้อยใหญ่ต่างๆ ของเกาะเวนิส ผ่านชมตึกบริเวณริมคลองชมวิถีชีวิติของชาวเวนิส  เป็นเรือพายพื้นบ้านของชาวเวนิสใช้เป็นพาหนะหลักของการเดินทางในเมืองเวนิสประเทศอิตาลีมานานหลายร้อยปี / นำท่านนั่งเรือกลับท่าเรือทรอตเช็ตโต

เดินทางสู่ เมืองโบโลญญ่า (Bologna)

ค่ำ                 รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เข้าสู่ที่พัก         โรงแรม NH Bologna Villanova(1) หรือเทียบเท่า

DAY 8

โบโลญญ่า - ปิซ่า – หอเอนเมืองปิซ่า– ฟลอเรนซ์ – เลคซิโอ - เซียนเซียโน่ เทอร์เม่

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ออกเดินทางสู่ เมืองปิซ่า (PISA) บ้านเกิดของกาลิเลโอ นักดาราศาสตร์เอกของโลก ซึ่งเป็นคนแรกที่ใช้กล้องโทรทัศน์ TELESCOPE ส่องดูดาวเมื่อประมาณ 400 ปีมาแล้ว และได้ประกาศสิ่งที่ค้นพบ ซึ่งท้าทายความเชื่อของคนทั้งโลกในสมัยนั้น ซึ่งเชื่อกันว่าโลกเป็นศูนย์กลางของสุริยจักรวาลแต่กาลิเลโอยืนยันว่าดวงอาทิตย์ต่างหากที่เป็นศูนย์กลางของสุริยจักรวาล / ถ่ายรูปกับ หอเอนเมืองปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) ตั้งอยู่ในจัตุรัสเดล ดูโอโม หอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวสูง 183.3 ฟุต (55.86 เมตร) น้ำหนักรวมประมาณ 14,500 ตัน มีบันได 293 ขั้น เอียง 3.97 องศา เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 1173 ในปี 1987 หอเอนปิซ่าได้ถูกประกาศโดยองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก โดยเป็นส่วนหนึ่งของ PIAZZA DEI MIRACOLI และยังเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางอีกด้วย และยังเคยเป็นสถานที่ที่นักวิทยาศาสตร์เอกของโลก ศาสตราจารย์กาลิเลโอ กาลิเลอิ ได้ค้นพบทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลก / ถ่ายรูปกับ หอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Battistero) ลักษณะเป็นหอทรงกลมสถาปัยกรรมแบบโร มาเนสก์ แต่ยอดโดมหลังคาเป็นแบบโกธิค

เที่ยง              รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               ออกเดินทางสู่ เมืองฟลอเรนซ์ (FLORENCE) เข้าสู่ย่านเมืองเก่าของฟลอเรนซ์ ที่ได้รับการคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1982 เป็นเมืองศูนย์กลางแห่งศิลปะในยุคเรอเนสซองส์ เข้าสู่ย่านเมืองเก่าของฟลอเรนซ์ ที่ได้รับการคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1982 เป็นเมืองศูนย์กลางแห่งศิลปะในยุคเรอเนสซองส์

ชมจัตุรัสเดลลาซิญญอเรีย (PIAZZA DELLA SIGNORIA) ที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าฟลอเรนซ์ มีรูปแกะสลักแสดงอยู่มากมาย อาทิเช่น รูปแกะสลักเพอร์ซุส วีรบุรุษกรีกโบราณ, รูปแกะสลักเฮอร์คิวลิส, รูปแกะสลักเดวิด (จำลอง)

ชม สะพานเวคคิโอ (PONTE VECCHIO) สะพานเก่าแก่ที่สุดของเมืองที่ยังคงหลงเหลืออยู่จนถึงปัจจุบัน จุดเด่นของสะพานอยู่ที่มีสีเหลืองทองอร่ามบวก กับสองฟากของสะพานจะถูกสร้างเป็นตึกแถว ซึ่งถูกใช้เป็นร้านขายของ บริเวณนี้กล่าวได้ว่าเป็นย่านช้อปปิ้งของฟลอเรนซ์ มีทั้งร้านค้าเป็นห้อง ๆ และแบบรถเข็น

ชม โบสถ์ซานตา มาเรีย เดลฟิโอเร (BASILICA DI SANTA MARIA DEL FIORE) โบสถ์ที่สร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 ออกแบบโดยฟิลิปโป บรูเนลเลสกี ด้านหน้าโบสถ์ประดับตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาว เขียว และชมพู สัญลักษณ์ของเมืองฟลอเรนซ์

เดินทางสู่ เมืองเลคซิโอ (Leccio) อิสระให้ทุกท่านได้ช้อปปิ้งที่ THE MALL OUTLET ให้ท่านเลือกซื้อสินค้าชั้นนำของอิตาลีในราคาย่อมเยาภายในเอาท์เลทมีร้านค้า  แบรนด์เนมมากมายอาทิ ARMANI, BALENCIAGA, BOTTEGA VENETA, BURBERRY, DIOR, FENDI, GUCCI, TOD’S, VALENTINO เป็นต้น / เดินทางสู่ เมืองเซียนเซียโน่ เทอร์เม่ (Chianciano Terme) เป็นเมืองตากอากาศน่ารักของอิตาลีบรรยากาศสดชื่น

ค่ำ                 รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เข้าสู่ที่พัก       โรงแรม Grand Hotel Excelsior Chianciano Terme หรือเทียบเท่า

DAY 9

เซียนเซียโน่ เทอร์เม่ – โรม – มหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ – น้ำพุเทรวี่ – โคลีเซี่ยม - ประตูชัยคอนสแตนติน

เช้า                 รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ กรุงโรม (Rome) เมืองหลวงของอิตาลี อยู่ในแคว้นลาซิโอเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกอีกด้วย

เดินทางสู่ นครรัฐวาติกัน (Vatican) เพื่อเข้าชม มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St.Peter’s Basilica) มหาวิหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 14 ไร่และสามารถจุคนได้มากกว่า 60,000 คน ด้วยความสวยงามและใหญ่โตของมหาวิหารแห่งนี้นั้นทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 120 ปี และนอกจากความใหญ่โตและสวยงามแล้ว สถานที่แห่งนี้ยังจัดว่าเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับคริสตจักรโรมันคาทอลิก ด้วยความเชื่อที่ว่าสถานที่แห่งนี้คือที่ฝังร่างของนักบุญเปโตร ผู้ที่เป็นบิชอปองค์แรกของแอนติออกที่ต่อมาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกของโรม

เที่ยง              รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               นำท่านถ่ายรูปที่ระลึกกับ น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) เป็นน้ำพุที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ตรงกลางจะเป็นรูปปั้นเทพเจ้าเนปจูนยืนอยู่บนรถม้า ลากโดยม้า 2 ตัว ซึ่งตัวหนึ่งมีลักษณะสงบเสงี่ยม ส่วนอีกตัวดูพยศ ซึ่งหมายถึงธรรมชาติของทะเลที่มีทั้งยามสงบและแปรปรวน นักท่องเที่ยวนิยมโยนเหรียญลงไปในน้ำพุ โดยหันหลังและโยนด้วยมือขวาให้เหรียญข้ามไหล่ซ้ายไป เชื่อว่าจะทำให้ได้กลับมากรุงโรมอีก

เดินทางสู่ บันไดสเปน (Spanish Steps) เป็นบันไดที่กว้าง  และยาวที่สุดในยุโรป มีทั้งหมด 138 ขั้น อิสระให้ท่านได้ ช้อปปิ้งที่ย่านบันไดสเปน ตั้งอยู่บนจัตุรัสอันเป็นที่ตั้งที่สามารถเชื่อมต่อกับถนน Via Condotti อันเป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนมชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Prada , Gucci , Dior , Valentino , Amarni , Versace , Fendi และอื่น ๆ จึงเป็นที่ถูกใจสำหรับนักช้อปที่นอกจากจะได้มา          เที่ยวชมความงามของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้แล้วยังสามารถ เดินช้อปปิ้งต่อแบบสบาย ๆ แถมที่นี่ยังใกล้กับร้านคาเฟ่ร้านกาแฟเก่าแก่ ชื่อดังของโรมอย่างร้านคาเฟ่เกร็กโกที่สามารถนั่งพักจิบกาแฟหลังจากช้อปปิ้งได้อีกด้วย

แวะบันทึกภาพภายนอก โคลีเซี่ยม (Colosseum) สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ อัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทราย วัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้คนได้ประมาณ 50,000 คน

ชม ประตูชัยคอนสแตนติน (Arch of Constantine) สัญลักษณ์แห่งชัยชนะ ถือว่าเป็นมรดกสำคัญของประเทศอิตาลีอีกที่หนึ่ง ตั้งอยู่ระหว่างโคลอสเซียมและพาลาตินฮิลล์ ถูกสร้างขึ้น ในวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ.312 เพื่อฉลองชัยชนะของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 ที่มีชัยชนะเหนือ Maxentius  ในสงคราม Battle of Milvian Bridge ซึ่งประตูนี้ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของประตูชัยอื่นๆ เช่น ประตูชัยฝรั่งเศส เป็นต้น

ค่ำ                 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

เข้าสู่ที่พัก        โรงแรม Holiday Inn Parco dei Medici หรือเทียบเท่า

DAY 10

โรม - กรุงเทพฯ

เช้า                รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ออกเดินทางสู่สนามบิน

13.30 น.         ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ TG 945

DAY 11

กรุงเทพฯ

06.05 น.         เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

ราคาเริ่มต้นที่

99,800.- บาท / คน

ช่วงเวลาเดินทาง

กำหนดวันเดินทาง

09 – 19 เม.ย. 63

30 เม.ย. – 10 พ.ค. 63

11 – 21 มิ.ย. 63

23 ก.ค. – 2 ส.ค. 63

06 – 16 ส.ค. 63

17 – 27 ก.ย. 63

08 – 18 ต.ค. 63

19 – 29 พ.ย. 63

03 – 13 ธ.ค. 63

24 ธ.ค. – 03 ม.ค. 64

จองทริปนี้

ดาวน์โหลด

แชร์ทริปนี้

02-678-6088