ปากีสถาน 9 วัน เส้นทางคาราโครัม

(1)      : กรุงเทพฯ – อิสลามาบัด – มันเซห์รา

(2)      : มันเซห์รา – นาราน – จุดชมวิวบาบูซาร์พาส – ชีราส

(3)      : ชีราส คาริมาบัด จุดคาริมาบัดชมวิวราคาโปชิ ฮุนซ่า วัลเล่ย์

(4)      : ฮุนซ่า – ป้อมอัลติท – ป้อมบัลติท – หุบเขานากา – กราเซียฮอปเปอร์ – ฮุนซ่า

(5)      : ฮุนซ่า – ทะเลสาบอัตตาบัด – สะพานแควนฮัสไซนี่ – พาสสุ โคลน – พาสสุ กลาเซียร์

(6)      : พาสสุ – ซอส – กุนจีราบ ปาส – กิลกิต

(7)      : กิลกิต – จุดตัดของ 3 แนวเทือกเขา – เบชฮาม

(8)      : เบชฮาม – อิสลามาบัด – พิพิธภัณฑ์ล็อก เวิสซ่า – มัสยิดชาห์ไฟซาล – อนุสาวรีย์ปากีสถาน

(9)      : กรุงเทพ

รายละเอียด ตารางการเดินทาง

DAY 1

กรุงเทพฯ – อิสลามาบัด – มันเซห์รา

16.00 น.       พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์กรุ๊ปสายการบินไทย (TG) ประตู 4 แถว D

18.55 น.       ออกเดินทางสู่ อิสลามาบัด โดยเที่ยวบิน TG 349

22.20 น.     เดินทางถึงสนามบินเมืองอิสลามาบัด เมืองอิสลามาบัด (Islamabad) (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) ชื่อเมืองอิสาลามาบัด มาจากคำสองคำ คือ อิสลาม และ อาบัด ซึ่งหมายถึง “เมืองแห่งอิสลาม”   โดยเมืองอิสลามาบัดเป็นเมืองหลวงของประเทศปากีสถาน ตั้งอยู่ในอิสลามาบัดแคพิทัลเทร์ริทอรี มีพื้นที่ 906 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 1 ล้านคน (พ.ศ.2560) กรุงอิสลามาบัดสร้างขึ้นในคริศต์ ทศวรรษ 1960 เพื่อเป็นเมืองหลวงของประเทศแทนนครกาจี

เดินทางสู่ เมืองมันเซห์รา (Mansehra) เป็นเมืองที่ท่านจะได้สัมผัสกับความตื่นเต้นด้วยเส้นทางที่มีความ  คดเคี้ยวท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งระหว่างการเดินทางท่านอาจจะได้พบกับรถประจำทางที่มีความโดดเด่น  เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งแต่ละคันก็มีความสวยงามไม่ซ้ำกัน ไม่ว่าจะเป็นลวดลาย สีสัน การตกแต่งสิ่งต่าง ๆ  ที่เข้ากับตัวรถอย่างสวยงาม

เข้าสู่ที่พัก         โรงแรม Karakuram Hotel หรือเทียบเท่า

DAY 2

อิสลามาบัดมันเซห์รา – นาราน – จุดชมวิวบาบูซาร์พาส – ชีราส

เช้า        รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่ เมืองนาราน (Naran) เพื่อเข้าสู่ เมืองชีลาส (Chilas) / นำท่านเดินทางลัดเลาะสันเขาที่ต้อง ไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเข้าสู่จุดสูงที่สุดของ บาบูซาร์พาส (Babusar Pass) เป็นเส้นทางภูเขา สูงที่ความสูง 4.173 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เส้นทางนี้เป็นจุดที่สูงที่สุดใน หุบเขาคากันฮัน (Kaghan Valley) ประเทศปากีสถาน

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย        แวะชมทัศนียภาพ ณ จุดชมวิวบาบูซาร์พาส (Babusar Pass) เป็นจุดที่สูงที่สุดของหุบเขาคากันฮัน สามารถเห็นทัศนียภาพที่งดงามแบบพาโนรามิคของยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน โดยเบื้องล่างเป็น หุบลึกของทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่มและเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้ป่าที่กำลังชูช่ออวดความงดงาม โดยทัศนียภาพจะงดงามที่สุดในฤดูร้อนระหว่างเดือน กันยายน-ต้นสิงหาคม

เดินทางสู่ เมืองชีราส (Chilas) เป็นเมืองที่มีภูเขาหินน้อยใหญ่อยู่มากมาย สิ่งที่โด่ดเด่นของภูเขาหินนั้นคือ ภาพสลักต่าง ๆ ที่มีข้อสันนิฐานว่ามีมาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นศาสนาพุธ ท่านจะได้พบเห็นภาพสลักมากมาย

ค่ำ          รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

เข้าสู่ที่พัก      โรงแรม Shangrila Hotel หรือเทียบเท่า

DAY 3

ชีราส – คาริมาบัด – จุดคาริมาบัดชมวิวราคาโปชิ – ฮุนซ่า วัลเล่ย์

เช้า         รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่ เมืองคาริมาบัด (Karimabad) ที่ตั้งแห่ง หุบเขาฮุนซ่า (Hunza) ใช้เส้นทางคาราโครัมไฮเวย์ (Karakoram Highway) เส้นทางเส้นนี้ท่านจะได้รับความเพลิดเพลินชมทัศนียภาพของเส้นทางหลวง คาราโครัม ระหว่างทางแวะ จุดคาริมาบัดชมวิวราคาโปชิ (Rakaposhi View Point) เพื่อชมบรรยากาศยอดเขาและความงดงามของยอดเขาราคาโปชิอย่างใกล้ชิดจนรู้สึกเหมือนจะสัมผัสได้ยอดเขาแห่งนี้ถูกจัดความสูงอยู่ในอันดับที่ 27 ของโลกซึ่งสูงถึง 7,790 ระหว่างทางวิวสวยงามอลังการ

เที่ยง       รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย     เดินทางสู่ ฮุนซ่า วัลเล่ย์ (Hunza Valley) เมืองนี้ตั้งอยู่บนความสูงประมาณ 2,438 เมตร เป็นดินแดนที่ผู้คนอายุมียืนยาวมากที่สุดในโลก อายุคนโดยเฉลี่ยในวัยชรานับ 100 ปีขึ้นไป อาจมาจากเป็นจุดที่มีโอโซนที่บริสุทธ์ ที่มาจากความมหัศจรรย์ของเทือกเขา สภาพแวดล้อมที่ให้ความอุดมสมบูรณ์ บวกกับการใช้วิถีชีวิตของชาวฮุนซ่า การปลูกบ้านเรือนลดหลั่นตามไหลเขา การทำเกษตรกรรมแบบออแกนิค ทำให้หุบเขาฮุนซ่าแห่งนี้ดูเป็นเมืองที่น่าหลงใหลเป็นอย่างมาก

นำท่านชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น ซึ่งจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกนั้นสามารถชมได้ที่บริเวณของโรงแรม

ค่ำ              รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

เข้าสู่ที่พัก      โรงแรม Eagle's Nest หรือเทียบเท่า

DAY 4

ฮุนซ่า – ป้อมอัลติท – ป้อมบัลติท – หุบเขานากา – กราเซียฮอปเปอร์ – ฮุนซ่า

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชมป้อมโบราณอายุประมาณ 1,100 ปี  ชื่อ ป้อมอัลติท (Altit Fort) และ ป้อมบัลติท   (Baltit Fort) ที่มีอายุประมาณ 700 ปี ให้ชมแล้ว   ยังมีหมู่บ้านอายุกว่า 1,000 ปี ซึ่งถือได้ว่าเป็นชุมชนแรก ๆ ในแคว้นกิลกิต-บัลติสถาน ลักษณะ โดยทั่วไปจะเป็นคนผิวขาว มีในตาสีฟ้า หน้าคม   เหมือนคนชาวยุโรป เพราะเป็นลูกหลานของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่กรีฑาทัพไปตีชมพูทวีป เมื่อประมาณ 326 ปีก่อนคริสตกาล

เที่ยง            รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย            นำท่านบันทึกภาพกับ หุบเขานากา (Nagar Valley) ตั้งอยู่ใกล้กับหุบเขากิลกิตมีความสูงจากระดับน้ำทะเลที่ 2,438 เมตร เคยเป็นเมืองหลวงของอดีตรัฐนากา ในอดีตเคยเป็นรัฐที่ปกครองพื้นที่โดยรอบยาวนานถึง 1,200 ปี จนกระทั่งล่มสลายลงใน ค.ศ.1974 หุบเขานากาเป็นสถานที่นิยม ชมทัศนียภาพของยอดเขาโดยรอบ ทั้งยอดเขา Rakaposhi ยอดเขา Diran และอื่น ๆ กว่า 30 ยอดเขา

นำท่านชม กราเซียฮอปเปอร์ (Hopper Glacier) เป็น กราเซียที่มีขนาดไม่ได้ใหญ่มากนักเมื่อเทียบกับที่อื่น ๆ แต่ความโด่ดเด่นของกราเซียฮอปเปอร์จะมีสีดำ นับได้ว่าเป็นสิ่งที่ท่านไม่ควรพลาด จุดเข้าชมกราเซียที่ใกล้มาก ท่านจะได้เห็นกราเซียที่สั่งสมกาลเวลายาวนานจนแทบเปลี่ยนจากน้ำแข็งกลายเป็นหินซึ่งเห็นได้จากความเก่าแก่สีออกเทาของกราเซียแห่งนี้

เดินทางกลับเข้าตัวเมืองฮุนซ่า แวะเที่ยวชมตลาดท้องถิ่นของเมืองฮุนซ่า ชมวิถีชีวิตของชาวฮุนซ่า

ค่ำ              รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

เข้าสู่ที่พัก      โรงแรม Darbar Hotel หรือเทียบเท่า

DAY 5

ฮุนซ่า – ทะเลสาบอัตตาบัด – สะพานแควนฮัสไซนี่ – พาสสุ โคลน – พาสสุ กลาเซียร์

เช้า            รับประทานอาหารเช้าณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่ ทะเลสาบอัตตาบัด (Attabad Lake) ทะเลสาบ  ที่มีน้ำนิ่งมีสีฟ้าเหมือนกับเทอร์ควอยซ์ ทะเลสาบอัตตาบัดนั้นเกิดจากการถล่มของหุบเขา เมื่อปี ค.ศ.2010 แล้วทำให้   หินมาปิดเส้นทางไหลของแม่น้ำฮุนซ่า ทะเลสาบนี้มีความยาวประมาณ 21 กิโลเมตร มีความลึกประมาณ 103 เมตร   ถือได้ว่าเป็นทะเลสาบที่สวยงามไม่แพ้ที่อื่น ๆ เลยทีเดียว

แวะบันทึกภาพกับ สะพานแควนฮัสไซนี่ (Hussaini Suspension Bridge) ถือได้ว่าเป็นสะพานวัดใจ เลยก็ว่าได้ เป็นการสร้างโดยใช้สลิงธรรมดาแล้วพื้นเป็นไม้ที่ว่างเป็น                  ระยะทำให้พื้นมีช่องว่างเวลาเดินข้าม จึงต้องมีสติอยู่   ตลอดเวลา แต่ชาวปากีสถานก็ใช้เป็นเส้นทางสรรจรอยู่เป็น ประจำแต่ด้วยบริเวณรอบ ๆ มีสภาพแวดล้อมที่สวยงามมาก ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดสำหรับนักถ่ายรูป นักโพสต์รูปที่ไม่ควรพลาด

เที่ยง            รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย            นำท่านแวะบันทึกภาพกับ พาสสุ โคลน (Passu Cones) เป็นภูเขาที่มีความคล้ายกับโคลนของไอศกรีมที่       คว่ำอยู่ ผู้คนที่ผ่านไปมาได้พบเห็นและเป็นภูเขานี้ตั้งอยู่ที่เมืองพาสสุ จึงให้ชื่อภูเขานี้ว่า “ภาสสุ โคลน”

เดินทางสู่ พาสสุ กลาเซียร์ (Passu Glacier) ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 2,400 เมตร เหนือ    ระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นกลาเซียร์สีขาวยาวประมาณ 20 กิโลเมตร กลาเซียร์แห่งนี้เกิดจากการถล่มของหิมะมาทับถมกันมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี ทริปนี้ท่านได้จะพบเห็นทั้งกลาเซียร์สีดำ คือ กราเซียฮอปเปอร์  (Hopper Glacier) และ กราเซียร์สีขาว คือ พาสสุ กลาเซียร์ (Passu Glacier)

ค่ำ              รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

เข้าสู่ที่พัก      โรงแรม PTL หรือเทียบเท่า

DAY 6

พาสสุ – ซอส – กุนจีราบ ปาส – กิลกิต

เช้า          รับประทานอาหารเช้า ณห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่ เมืองซอส (Sost or Sust) เป็นหมู่บ้านสุดท้ายที่อยู่ติดชายแดนของประเทศปากีสถาน ซึ่งติด กับประเทศจีน ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่สูงถึง 2,800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และยังเป็นเมืองที่ขนส่งสินค้าค้าขายระหว่างชาวปากีสถานกับชาวจีน

จากนั้นเดินทางสู่ กุนจีราบ ปาส (Khunjerab Pass) เป็นเขตพรมแดนระหว่างปากีสถานและจีน เป็นจุด ที่มีความสูง 4,730 เมตร หรือประมาณ 16,000 ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล มีเส้นทางที่เจริญมากเนื่องจากประเทศจีนได้สนับสนุนการก่อสร้างเส้นทาง และยังถือได้ว่าเป็นเส้นทางสายไหมที่มีชื่อว่า คาราโครัมไฮเวย์ (Karakoram Highway หรือ KKH) แถมยังตั้งอยู่ในเขตของอุทยานอีกด้วย โชคดีอาจจะได้พบสัตว์ป่าสงวนหาดูยาก เช่น แกะมาร์โคโปโล แพะภูเขา เสือดาวหิมะ เป็นต้น

เที่ยง            รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย            เดินทางสู่ เมืองกิลกิต (Gilgit) ระหว่างการเดินทางท่านจะผ่าน เมืองชาติอัส (Shatial) คณะจะเดินทางลัดเลาะตามไหล่เขาเรียบริม แม่น้ำสินธุ (Indus River) เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในปากีสถาน และเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกอันดับที่ 21 ในแง่ของการไหลผ่านประจำปี มักถูกพูดว่าเป็นเส้นชีวิตของชาวปากีสถาน ต้นกำเนิดของแม่น้ำอยู่บริเวณที่ราบสูงทิเบต ใกล้กับทะเลสาบมานาซาโรวาร์ ความยาวรวมของแม่น้ำมีความยาว 3,180 กิโลเมตร

ค่ำ              รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

เข้าสู่ที่พัก      โรงแรม Serena Hotel หรือเทียบเท่า

DAY 7

กิลกิต – จุดตัดของ 3 แนวเทือกเขา – เบชฮาม

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่ จุดตัดของ 3 แนวเทือกเขา 3 แห่ง เพื่อถ่ายภาพที่ระลึกกับสถานที่มหัศจรรย์แห่งนี้ โดยจุดตัดสามเขานี้ ได้แก่ภูเขา

เขาที่ 1 เทือกเขาหิมาลัย (Himalaya Range)  เป็นเทือกเขาในทวีปเอเชีย ที่แยกอนุทวีปอินเดียทางทิศใต้ ออกจากที่ราบสูงทิเบตทางทิศเหนือ มียอดเขาที่สูงที่สุดในโลกคือยอดเขาเอเวอเรสต์ นอกจากนี้     ยังมียอดเขากันเจนชุงคา (Kanchenjunga) และยังประกอบด้วยยอดเขาที่มีความสูงมากกว่า 7,200 เมตร เป็นจุดกำเนิดของระบบแม่น้ำที่สำคัญของโลกหลายสาย เช่น แม่น้ำสินธุ แม่น้ำคงคา แม่น้ำพรหมบุตร แม่น้ำสาละวิน และแม่น้ำโขง และยังเป็นเทือกเขาที่กินพื้นที่ถึง 5 ประเทศ ได้แก่ ปากีสถาน อินเดีย จีน ภูฏาน เนปาล

เขาที่ 2 เทือกเขาฮินดูกูช (Hindu Kush) เป็นเทือกเขาที่ขยายตัวต่อจากเทือกเขาคาราโครัมไปทาง ตะวันตก มีความยาวประมาณ 800 กิโลเมตร อยู่บริเวณรอยต่อของประเทศปากีสถานกับประเทศ    อัฟกานิสถาน มียอดเขาสูงที่มากกว่าระดับ 7,000 เมตร

เขาที่ 3 เทือกเขาคาราโครัม (Karakoram) เทือกเขาตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาหิมาลัยกับเทือกเขาฮินดูกูช บริเวณเทือกเขาคาราโครัมเป็นเขตติดต่อกันสามประเทศได้แก่ ปากีสถาน จีน และอินเดีย จุดสุงสุดของเทือกเขาคือ ยอดเขาเคทู ตั้งอยู่บริเวณประเทศจีนและปากีสถาน

เที่ยง           รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย            ออกเดินทางสู่ เมืองเบชฮาม (Besham) ตั้งอยู่ในแคว้นไคเบอร์ปัคตูนควา (Khyber Pakhtunkhwa) ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแคว้น เมืองเบชฮามตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองอิสลามาบัด ระหว่างการเดินทางท่านจะได้สัมผัสกับทิวทัศอันงดงามของธรรมชาติ ซึ่งในแต่ละฤดูกาลนั้นให้ความรู้สึกที่มีความแตกต่างกัน

ค่ำ              รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

เข้าสู่ที่พัก      โรงแรม Hilton Hotel หรือเทียบเท่า

DAY 8

เบชฮาม – อิสลามาบัด – พิพิธภัณฑ์ล็อก เวิสซ่า – มัสยิดชาห์ไฟซาล – อนุสาวรีย์ปากีสถาน

เช้า       รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่ เมืองอิสลามาบัด (Islamabad) / นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์ล็อก เวิสซ่า (Lok Virsa Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ที่รวบรวมเรื่องราวของประเทศปากีสถานในยุคโบราณจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ได้จัดแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่และการแต่งกายของชนเผ่าต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องราวของการสร้างชาติและประวัติของบุคคลสำคัญต่าง ๆ ของประเทศปากีสถาน ให้ผู้คนที่มาเยี่ยมชมได้ศึกษา

เที่ยง         รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร

บ่าย          นำท่านเข้าชม มัสยิดชาห์ไฟซาล หรือ มัสยิดอัลไฟซาล (Shah Faisal Masjid / Mosque) เป็นมัสยิดที่สร้างขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ในกรุงอิสลามาบัดแห่งนี้ เป็นมัสยิดสมัยใหม่ที่ปฏิบัติตามแนวทางของนิกายซุนนี แต่ยังประกอบศาสนพิธีของหลายนิกายในโลกมุสลิม

เดินทางสู่ อนุสาวรีย์ปากีสถาน (Pakistan Monument) เป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติและพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาชาการ์ปาเรียในกรุงอิสลามาบัด อนุสาวรีย์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็น สัญลักษณ์ของความสามัคคีของชาวปากีสถาน ที่ตั้งของอนุสาวรีย์อยู่บนที่สูงทำให้ผู้คนสามารถมองเห็นได้จากทั่วบริเวณเมืองหลวงของกรุงอิสลามาบัดและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมประจำเมือง ด้วยรูปร่างอันเป็นเอกลักษณ์ โครงสร้างรูปกลีบดอกไม้สี่กลีบสร้างจากหินแกรนิต แต่ละกลีบแสดงถึงความเป็นปากีสถานตัวแทนของแคว้นสำคัญของปากีสถาน ได้แก่ แคว้นบาลูจิสถาน , แคว้นสินธ์ , แคว้นปัญจาบและแคว้นไคเบอร์ปัคตูนควา แต่ละกลีบแกะสลักภาพของชาวปากีสถาน สถานที่สำคัญของประเทศทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ มัสยิดแบดชาฮิ , ป้อมเมืองลาฮอร์ , ช่องเขาไคเบอร์และมินาร์ เอ ปากีสถาน ใจกลางอนุสาวรีย์ที่ล้อมรอบด้วยกลีบดอกไม้ทั้งสี่ เป็นประติมากรรมสามเหลี่ยมฐานเป็นดาวห้าแฉก อิสระให้ท่านได้บันทึกภาพบริเวณอนุสาวรีย์แห่งนี้

ค่ำ              รับประทานอาหารอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

20.30 น.       ออกเดินทางสู่สนามบินอิสลามาบัด

23.30 น.       ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ TG 350

DAY 9

กรุงเทพ

06.15 น.       เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

ราคาเริ่มต้นที่

65,900.- บาท / คน

ช่วงเวลาเดินทาง

กำหนดวันที่เดินทาง

03 – 11 เม.ย. 63

10 – 18 เม.ย. 63

24 เม.ย. – 02 พ.ค. 63

22 – 30 พ.ค. 63

23 – 31 ต.ค. 63

06 – 14 พ.ย. 63

20 – 28 พ.ย. 63

04 – 12 ธ.ค. 63

จองทริปนี้

ดาวน์โหลด

แชร์ทริปนี้

02-678-6088