เกาะซิซิลี – มอลต้า 10 วัน 7 คืน
(1) : กรุงเทพฯ – อิสตันบลู
(2) : อิสตันบลู – คาทาเนีย – ตาวร์มิน่า
(3) : ตาวร์มิน่า – ภูเขาไฟเอ็ดน่า – กระเช้าเคเบิ้ลคาร์ – รถจิ๊ป 4WD – ปาเลอร์โม
(4) : ปาเลอร์โม – มอนเรอาเล่ – มหาวิหารแห่งมอนเรอาเล่ – ปาเลอร์โม
(5) : ปาเลอร์โม – หมู่บ้านคอร์เลโอเน “ก็อดฟาเธอร์” – อากรีเจนโต
(6) : อากรีเจนโต – ปอซซาโล
(7) : ปอซซาโล – นั่งสปีดโบ๊ท “คาตามารัน” – มอลตา – วัลเลตตา – มหาวิหารเซนต์จอห์น
(8) : เกาะโกโซ – วิหารกันติจา – โบสถ์ทาพินู – ป้อมปราการวิคตอเรีย
(9) : ถ้ำบลูกรอตโต – เมดิน่า – วิหารเซนต์ปอล – อิสตันบูล
(10) : อิสตันบูล – กรุงเทพฯ
รายละเอียด ตารางการเดินทาง
DAY 1
กรุงเทพฯ – อิสตันบลู
20.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ แถว U ประตู 9
23.30 น. ออกเดินทางสู่ อิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK 069
DAY 2
อิสตันบลู – คาทาเนีย – ตาวร์มิน่า
06.25 น. เดินทางถึง อิสตันบูล เพื่อแวะเปลี่ยนเที่ยวบิน
07.45 น. ออกเดินทางสู่ คาทาเนีย โดยเที่ยวบินที่ TK 1393
08.15 น. เดินทางถึง เมืองคาทาเนีย (Catania) เมืองใหญ่อันดับ 2 ตั้งอยู่บนชายฝั่งทิศตะวันออกของทะเลไอ โอเนียน เมืองคาทาเนียเคยได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุภูเขาไฟเอ็ดน่าในปี ค.ศ.1169 ตัว เมืองเก่าของคาทาเนียยังคงรูปแบบของงานศิลปะกรรมในรูปแบบบารอคของประเทศอิตาลีได้เป็น อย่างดี จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้
เดินทางสู่ เมืองตาวร์มิน่า (Taormina) เมืองตากอากาศเก่าแก่สวยงาม ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลไอโอเนียน ของเกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี ตัวเมืองอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 204 เมตร เคยเป็นศูนย์กลางของ อาณาจักรไบเซนไทน์บนเกาะซิซิลี และเป็นเมืองที่สร้างบนเขาบ้านเรือนและร้านอาหารตกแต่ง สวยงาม ถือเป็นเมืองชนบทตอนใต้ของอิตาลีที่น่ารื่นรมย์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ชม โรงละครกรีก (Teatro Greco) โบราณสถานที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองตาวร์มิน่า ออกแบบใหม่โดยพวกโรมัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความชำนาญพิเศษของชนชาติกรีกที่สามารถเลือกฉากสถานที่ ที่ซึ่งสามารถรวมความงามทางด้านศิลปะและธรรมชาติในเวลาเดียวกันและกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมที่เป็นเป็นธรรมชาติได้อย่างสวยงาม
นำท่านช้อปปิ้งที่ ถนนคอร์โซ อุมแบร์โต (Corso Umberto) แหล่งช้อปปิ้งศูนย์รวมร้านค้าพื้นเมือง บาร์ ร้านอาหารท้องถิ่นที่อัดแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถนนสายนี้เป็นที่นิยมสำหรับการชมดูผู้คนต่างชาติต่างภาษาที่มาเดินเล่นกันให้ขวักไขว่ แต่ยังคงไว้ซึ่งสภาพแวดล้อมแบบท้องถิ่น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Villa Esperia หรือเทียบเท่า
DAY 3
ตาวร์มิน่า – ภูเขาไฟเอ็ดน่า – กระเช้าเคเบิ้ลคาร์ – รถจิ๊ป 4WD – ปาเลอร์โม
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ ภูเขาไฟเอ็ดน่า (Mount Etna) ภูเขาไฟที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี 2013 ภูเขาไฟเอ็ดน่าเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่มีการปะทุบ่อยครั้ง และมีความสูงที่สุดของยุโรปทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเก็บภาพยามควันไฟปะทุ ลอยสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็นได้อย่างง่ายดาย
นำท่านขึ้น กระเช้าเคเบิ้ลคาร์ (Cable Car) ขึ้นสู่ความสูงประมาณ 2,500 เมตร เพื่อไปสู่จุดชมวิวที่ท่านจะสามารถเห็นทิวทัศน์และบันทึกภาพของภูเขาไฟเอ็ดน่าได้อย่างชัดเจน ท่านสามารถชมภาพเหตุการณ์ที่ภูเขาไฟระเบิดเมื่อ ค.ศ.2006 สนุกสนานกับการนั่ง รถจิ๊ป 4WD ขึ้นภูเขาไฟเอ็ดน่าที่ความสูง 2,950 เมตร มีหิมะปกครุมตลอดทั้งปีชมความมหัศจรรย์ของ Snow Wall หรือกำแพงหิมะหนึ่งเดียวในยุโรป ที่ภูเขาไฟเอ็ดน่า บนเกาะซิซิลี
ชม ภูเขาไฟเอ็ดน่า (Mount Etna) เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป มีความสูงประมาณ 3,340 เมตร วัดฐานโดยรอบได้ 150 เมตร เป็นที่รู้จักกันในภาษาท้องถิ่นว่า “ปล่องไฟแห่งซิซิลี” ในหน้าหนาวจะเห็นหิมะปกคลุมอยู่บนยอดเขาตามประวัติมีบันทึกไว้ว่าภูเขาเอ็ดน่าเกิดการปะทุขึ้นครั้งแรกในปี 396 ก่อนคริสตกาล ซึ่งสามารถเห็นซากลาวาและเถ้าถ่านของภูเขาไฟ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางสู่ เมืองปาเลอร์โม (Palermo) เมืองหลวงของแคว้นปกครองตนเองซิซิลี มีประวัติยาวนาน ย้อนหลังไปถึง 800 ปีก่อนคริสตกาล และผ่านการยึดครองจากหลายชาติหลายภาษา ทำให้มีโบราณสถานลักษณะและรูปแบบแตกต่างกันอยู่เป็นจำนวนมาก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Mercure Palermo Centro หรือเทียบเท่า
DAY 4
ปาเลอร์โม – มอนเรอาเล่ – มหาวิหารแห่งมอนเรอาเล่ – ปาเลอร์โม
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ เมืองมอนเรอาเล่ (Monreale) หรือ Mons Regalis ที่มีความหมายในภาษาอังกฤษว่า Royal Mountain ตั้งอยู่บนลาดเขาคาปูโต้
นำท่านเข้าชม มหาวิหารแห่งมอนเรอาเล่ (Duomo Di Monreale) ผลงานอันโดดเด่นที่เป็นการผสมผสานศิลปะสามรูปแบบเข้าด้วยกันเริ่มจากทรงสถาปัตยกรรมแบบนอร์มัน แต่มีความงามเป็นเลิศที่หินโมเสคที่ใช้ในการประดับประดาวิหาร อันเป็นคุณลักษณะของศิลปะไบแซนไทน์ หินโมเสคเหล่านี้เล่าเรื่องราวในคัมภีร์ศาสนาคริสต์จากการสร้างโลกไปจนถึงยุคของพระบุตร และนักบุญและมีเสาประดับวิหารที่แสดงให้เห็นถึงความอิสระที่ไม่ธรรมดาของรูปแบบศิลปะโรมาเนสก์
ชม เขตเมืองเก่าของมอนเรลาเล่ (The Old Town of Monreale) เมืองนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของงานศิลปะท้องถิ่นและเครื่องเซรามิก ที่มีรูปแบบรูปทรงให้เลือกมากมายตั้งแต่แบบโบราณไปจนถึงแบบสมัยใหม่ / จากนั้นเดินทางกลับ เมืองปาเลอร์โม (Palermo)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านถ่ายภาพที่ระลึกกับ มหาวิหารแห่งปา เลอร์โม่ (Palermo Cathedral) ที่สร้างอุทิศแด่ พระแม่มารี งานก่อสร้างส่วนใหญ่เกิดขึ้นในราว คริสต์ศตวรรษที่ 15–16 โดยเฉพาะหน้ามุขด้านใต้ ที่เป็นศิลปะแบบ คาตาลัน–กอธิค และที่งดงาม อีกอย่างหนึ่งก็คือโดมทรงกลม
ชม ย่านควอทโตร คานติ (Quattro Canti) ย่านใจกลางเมืองเก่า มีอนุสาวรีย์รายล้อมด้วยน้ำพุและรูปปั้นบริเวณจัตุรัสเปรตอเรีย (Piazza Petroria)
อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมย่าน ถนนเดลล่า ลิเบอร์ต้า (Via Della Liberta) มีร้านค้าแบรนด์เนมหรูทั้ง หลุย วิตตองส์ , พราด้า เป็นต้น
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Mercure Palermo Centro หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
DAY 5
ปาเลอร์โม – หมู่บ้านคอร์เลโอเน "ก็อดฟาเธอร์" – อากรีเจนโต
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ หมู่บ้านคอร์เลโอเน (Corleone) สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง The Godfather ภาพยนต์ที่ได้รับการจัดอันดับโดยเว็บไซต์ IMDB ให้เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอันดับ 2 จาก 250 อันดับ และถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 2 ของภาพยนตร์ยอดเยี่ยมตลอดกาลโดยสถาบันภาพยนตร์อเมริกัน โดยมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวมาเฟียชาวอิตาลี ชื่อคอร์เลโอเน ที่อพยพจากเมืองเล็ก ๆ ใกล้กับเมืองปาแลร์โมเมืองเอกของเกาะซิซิลี ไปอยู่ที่เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เนื้อเรื่องครอบคลุมช่วงทศวรรษ ค.ศ. 1945 - 1955 สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันที่เขียนโดย มาริโอ พูโซ ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1969
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางสู่ เมืองอากรีเจนโต (Agrigento) เมืองที่เต็มไปด้วยโบราณสถานกรีกจนได้ถูกยกย่องว่าเป็น หุบเขาแห่งวหิาร The Valley of Temples ถือว่าเป็นหนึ่งในเมืองของอารยธรรมกรีกที่รุ่งเรืองที่สุดในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ดังนั้นชาวอาครากาสซึ่งย้ายถิ่นฐานมาจากกรีกเมื่อ 800 ปีก่อนคริสต์กาลจึงได้สร้างวิหารเพื่อบูชาเทพเจ้าของกรีกไว้ ณ เมืองแห่งนี้
อิสระให้ท่านเพลิดเพลินช้อปปิ้งและเดินสํารวจเมืองบริเวณ ย่านถนนคนเดินเวีย อาทีเนีย (Via Atennea)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Della Valle หรือเทียบเท่า
DAY 6
อากรีเจนโต – ปอซซาโล
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นําท่านเที่ยวชม หุบเขาแห่งวิหาร (The Valley of Temples) ของเมืองอากรีเจนโต เมืองที่ได้รับการขนาน นามว่า เมืองที่งามที่สุดของมวลมนุษย์ เคยรุ่งเรืองอย่างสูงสุดในศตวรรษที่ 5 มีการสร้างหมู่วิหารอันอลังการเป็นสง่า / ชมเตมปิโอ เดลลากองกอร์เดีย มหาวิหารแบบกรีกที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและ เตมปิโอ ดิ เซอุส วิหารบูชาเทพเจ้าซุส สร้างด้วยศิลปะแบบดอริก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางสู่ เมืองปอซซาโล (Pozzallo) ตั้งอยู่ทางใต้สุดของเกาะซิซิลี เมืองนี้ได้รับการขนานนามว่ามีชายหาดที่สะอาดและน้ำเป็นประกายจนได้รับรางวัล Bandiera Blu ด้วยความสวยงามของชายหาด ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกเพลิดเพลินไปกับชายหาดและความสะอาดของชายหาดปอซซาโลได้ไม่ยาก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Modica Palace หรือเทียบเท่า
DAY 7
ปอซซาโล – นั่งสปีดโบ๊ท "คาตามารัน" – มอลตา – วัลเลตา – มหาวิหารเซนต์จอห์น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางไปยัง ท่าเรือเมืองปอซซาโล (Pozzallo) เพื่อนั่ง สปีดโบ๊ท "คาตามารัน" (Catamaran speed boat) ข้ามประเทศไปยัง มอลตา (Malta) หรือสาธรณรัฐมอลตา เป็นประเทศหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในคาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนียนอยู่ทางตอนใต้ของประเทสอิตาลีอยู่ห่างจากเกาะซิซิลีของประเทศอิตาลีประมาณ 97 กิโลเมตร มอลตาเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กและยังมีเมืองหลวงที่มีชื่อเรียกว่า เมืองวัลเลตตา (Valletta) เป็นเมืองหลวงที่เล็กที่สุดของสหภาพยุโรป
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเที่ยวชม เมืองวัลเลตตา (Valletta) เมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1980 และภาษามอลตาได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเป็นภาษาประจําชาติและเป็นภาษาเซมิติกเดียวในสหภาพยุโรป มอลตาเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีสภาพภูมิอากาศอบอุ่น และมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกทางสถาปัตยกรรมและทางประวัติศาสตร์มากมาย
นำท่านเข้าชม มหาวิหารเซนต์จอห์น (St.John's Co-Cathedral) เป็นอาคารที่มีความเก่าเเก่อีกเเห่งในมอลตา สร้างมาตั้งเเต่สมัยศตวรรษที่ 16 ภายนอกนั้นมีความเรียบง่ายเเละไม่โดดเด่น โดยมีสีหินทราย พร้อมกับหอระฆังเเห่งวัลเลตตาที่สูงเด่นเป็นสง่าสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล ภายในมหาวิหารมีความสวยงามอย่างมากจากงานจิตรกรรมบนเพดานที่บอกเล่าเรื่องราวของศาสนา เเละมีการประดับประดาด้วยทองคำที่ระยิบระยับงดงามอย่างมาก นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในวัลเลตตา
นำท่าน นั่งรถม้าชมเมืองวัลเลตตา (Valletta) ภายในเมืองจะอนุญาต รถคนในพื้นที่ , รถฉุกเฉินและรถม้า จึงได้รับฉายาว่า "The Silent City" ระหว่างนั่งรถม้าชมเมืองท่านจะได้เห็นอาคาร สถาปัตยกรรมที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 วัลเลตตาเป็นเมืองที่ถูกสร้างในช่วงสมัยของอัศวินเซนต์จอห์นแห่งเยรูซาเลม เมืองมีเอกลักษณ์พื้นฐาน แบบสถาปัตยกรรมบาโรก ด้วยความยิ่งใหญ่ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ยังหลงเหลืออยู่ของเมืองจะคอยกล่อมคุณให้หลงอยู่ในเสน่ห์ของวัลเลตตา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Golden Tulip Vivaldi หรือเทียบเท่า
DAY 8
เกาะโกโซ – วิหารกันติจา – โบสถ์ทาพินู – ป้อมปราการวิคตอเรีย
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นําท่านนั่งเรือข้ามเกาะเดินทางสู่ เกาะโกโซ (Gozo Island) สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของมอลตา โดยนําท่านไปยัง ท่าเรือ Cirkewwa Ferry Terminal ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะมอลตาใช้เวลานั่งเรือข้ามฟากประมาณ 25 - 40 นาที (ขึ้นอยู่กับลมและสภาพอากาศ) ขณะที่ท่านนั่งเรือข้ามไปยังเกาะโกโซ ท่านจะผ่านเกาะเล็ก ๆ ชื่อ เกาะโคมิโน (CominoIsland) ซึ่งเป็นเกาะที่ตั้งอยู่กลางทะเลเห็นได้ชัด เป็นเกาะที่มีหน้าผาหินที่มีลักษณะขรุขระแต่มีความสวยงาม หากมองขึ้นไปบนยอดบนสูงสุดจะเห็น ป้อมปราการซานต้า มาเรีย (Santa Maria Fort) ที่เคยใช้เป็นฉากถ่ายทำหนังภาพยนตร์เรื่อง “Count of Monte Cristo” ในปี ค.ศ. 2002 / เดินทางถึง เกาะโกโซ (Gozo Island) เป็นเกาะที่มีความงดงามทางธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งของหมู่เกาะมอลตาเป็นเกาะที่มีความเขียวขจีมากกว่าเกาะใหญ่ของมอลตาเป็นอีกจุดหมายปลายทางยอดนิยมของเหล่านักดำน้ำ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชม วิหารกันติจา (Ggantija Temples) อีกหนึ่งวิหารเก่าแก่ สร้างขึ้นจากหินขนาดใหญ่ เชื่อกันว่าเป็นวิหารทางศาสนาที่มีความเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1980
ชมจุดชมวิว Dwejra สามารถมองเห็นอ่าว Dwejra และทะเลปิดรวมทั้ง Admiral Rock หรือที่รู้จัก กันดีในชื่อ Fungus Rock ซึ่งมีผู้ค้นพบพืชชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นและเติบโตบนหิน คล้ายกับกาฝากชนิดหนึ่งที่เจริญเติบโตคล้ายกับยีสต์หรือเชื้อรา พืชชนิดนี้มีประโยชน์มากในทางการแพทย์ สามารถใช้ รักษาแผลให้หายหรือห้ามเลือดได้
จากนั้นนําท่านชม โบสถ์ทาพินู (Ta Pinu Shrine) สร้างอุทิศให้กับพระแม่มารีย์ เป็นวิหารของ นิกายโรมันคาทอลิค ทําเลตั้งอยู่บริเวณใกล้หน้าผา จึงสามารถมองวิวลงไปได้กว้าง ในอดีตเป็นเพียง โบสถ์หินขนาดเล็กยุคศตวรรษที่ 15 และถูกต่อเติมและสร้างขึ้นใหม่ในช่วงปี ค.ศ.1922 - 1932 แบบสไตล์นีโอโรแมนติค ด้านในโบสถ์ประดับด้วยภาพโมเสค จํานวน 6 ภาพ และกระจกสีจํานวน 76 บาน และมีหอระฆังสูง 61 เมตร นับเป็นอีกหนึ่งโบสถ์ที่มีความสําคัญของคริสตจักรเนื่องจากพระสันตะปาปามาเยือนถึง 2 ท่าน นอกจากนี้โบสถ์แห่งนี้ มีเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับการเกิดปาฏิหาริย์หลายสิ่งหลายอย่าง
ถ่ายรูปที่ระลึกกับ ป้อมปราการวิคตอเรีย (Victoria Fortress) หรือป้อมปราการในรัฐวิคตอเรีย ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาะโกโซ ในอดีตบริเวณนี้เป็นพื้นที่อาศัยมาตั้งแต่ยุคสำริด และยังเชื่อกันว่าที่นี่ เป็นเมืองบริวารของกรุงโรม ป้อมปราการใหญ่แห่งนี้สร้างอยู่บนที่สูงของเกาะตั้งแต่ในสมัยยุคกลาง ภายในมีที่อยู่ของผู้ปกครองเมือง ห้องเก็บอาวุธของอัศวิน คุกของทาสและนักโทษ รวมถึงในปัจจุบันมีพิพิธภัณฑ์ทางโบราณคดีอีกด้วย
นำท่านนั่งเรือออกจากเกาะโกโซเพื่อเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Golden Tulip Vivaldi หรือเทียบเท่า
DAY 9
ถ้ำบลูกรอตโต – เมดิน่า – วิหารเซนต์ปอล – อิสตันบูล
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านล่องเรือชมทัศนียภาพความสวยงาม ของบริเวณที่เรียกว่า Wied iz-Zurrieq (Valley of Zurrieq) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ถ้ำบลูกรอตโต (Blue Grotto แห่งเกาะมอลตาเป็นถํ้าทะเลในเขตชายฝั่งทางทิศใต้ ของเกาะ ความโดดเด่นของถํ้าแห่งนี้คือนํ้าทะเลที่เป็นสีฟ้าใสคล้ายกับสามารถสะท้อน แสงได้ในความมืด โดยเกิดขึ้นจากแสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านเข้ามาจากปากถํ้าที่มีความกว้างเพียงแค่ ประมาณ 2 เมตร สาดส่องลงสู่ผืนนํ้าที่มีแร่เหล็กอยู่ข้างใต้ จึงเกิดการสะท้อนแสงทําให้นํ้าทะเลที่มีสีฟ้าอยู่แล้วยิ่งเปล่งประกายคล้ายกับการติดไฟใต้นํ้า
*** หมายเหตุ *** การเข้าชมชมถ้ำ Blue Grotto ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และระดับน้ำทะเลในวันนั้น หากไม่สามารถเข้าชมได้บริษัทฯ จะจัดหาที่เที่ยวทดแทนเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้เดินทาง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางสู่ เมืองเมดิน่า (Mdina) เมืองหลวงโบราณของมอลตา เป็นเมืองที่สร้าง ในยุคกลางที่มีความ สวยงามมาก มีอาคารสถาปัตยกรรมโบราณในรูปแบบบาร็อก มหาวิหาร และมีกําแพงล้อมเมืองที่ สูงตระหง่าน / นำท่านชม Madina Main Gate ประตูที่ถูกออกแบบโดย Mondion สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1724 ด้วยสไตล์บาร็อคอันงดงาม เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมในการออกแบบบาโรก อีกทั้งด้านหน้า ประตูยังมีรูปปั้นสิงโตคำรามยืนหน้าประตู
ถ่ายรูปที่ระลึกกับ วิหารเซนต์ปอล (St. Paul's Cathedral Mdina) สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 13 และอุทิศให้กับนักบุญพอล หลังจากได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวเมื่อปี พ.ศ. 1693 โบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1702 อาคาร สไตล์บาโรกอันงดงามแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยลอเรนโซกาฟา ภายในกว้างขวางมีโดมที่ช่วยให้แสงสว่างสามารถส่องเข้าไปข้างในได้ การตกแต่งของมหาวิหารเป็นพื้นหินอ่อนที่ทำจากทองคำและหิน อ่อนสีชมพู
16.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อมีเวลาให้ท่านรับประทานอาหารเย็น และทำ Tax Refun
20.05 น. ออกเดินทางสู่ อิสตันบลู โดยเที่ยวบิน TK 1372
DAY 10
อิสตันบูล – กรุงเทพฯ
00.30 น. เดินทางถึง อิสตันบูล เพื่อแวะเปลี่ยนเที่ยวบิน
01.50 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ TK 068
15.10 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
ราคาเริ่มต้นที่
118,000.- บาท / คน
ช่วงเวลาเดินทาง
30 เม.ย. – 9 พ.ค. 63
21 – 30 พ.ค. 63
18 – 27 มิ.ย. 63
23 ก.ค. – 1 ส.ค. 63
6 – 15 ส.ค. 63
17 – 26 ก.ย. 63
15 – 24 ต.ค. 63
19 – 28 พ.ย. 63
3 – 12 ธ.ค. 63
29 ธ.ค. 63 – 7 ม.ค. 64
ดาวน์โหลด
02-678-6088





ฮังการี
จอร์เจีย
มอนเตรเนโกร
เซอร์เบีย
บอสเนีย
โครเอเชีย
ไอซ์แลนด์
สเปน
ฝรั่งเศส
กรีซ
โปแลนด์
โปรตุเกส
โรมาเนีย
รัสเซีย
สวิตเซอร์แลนด์
ฟินแลนด์
ตุรกี
อังกฤษ
ออสเตรีย
นอร์เวย์
เยอรมนี
เบลเยียม
เนเธอร์แลนด์
อิตาลี
เช็ก
ลิทัวเนีย
ลัตเวีย
เอสโตเนีย
บัลแกเรีย
เดนมาร์ก
สวีเดน
ยุโรป บอลติก
ยุโรป สแกนดิเนเวีย
เลบานอน
จอร์แดน
ดูไบ
คิวบา
สหรัฐอเมริกา
เม็กซิโก
แคนาดา
เอธิโอเปีย
แอฟริกาใต้
เคนยา
โมร็อกโก
อียิปต์
นามิเบีย
บอตสวานา
แซมเบีย
ภูฏาน
ปากีสถาน
เนปาล
ออสเตรเลีย
นิวซีแลนด์
ญี่ปุ่น
เกาหลีใต้
อินเดีย
จีน
ฮ่องกง
มาเก๊า
เวียดนาม
สิงคโปร์
ไต้หวัน
อิหร่าน
เปรู
อาเจนติน่า
บราซิล



02-678-6088
02-678-6100

