โปรตุเกสแบบเจาะลึก 10 วัน
(1) : กรุงเทพฯ
(2) : กรุงเทพ – โดฮา – ลิสบอน
(3) : ลิสบอน – โคอิมบรา – พอร์โต้
(4) : พอร์โต้ – กีมาไรซ์ – วิล่า เรียล – วีเซล
(5) : วีเซล – เอโวร่า
(6) : เอโวร่า – ฟารู่
(7) : ฟารู่ – Benagil Cave – ลากอส – ซาเกรส – ฟารู่
(8) : ฟารู่ – ซินตร้า – แหลมโรคา – ลิสบอน
(9) : ลิสบอน – โดฮา
(10) : โดฮา – กรุงเทพฯ
รายละเอียด ตารางการเดินทาง
DAY 1
กรุงเทพฯ
22.00 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ สายการบินกาตาร์ (QR) เคาน์เตอร์เชคอิน P/Q ประตูทางเข้าที่ 8
DAY 2
กรุงเทพ – ดูไบ – ลิสบอน
02.10 น. ออกเดินทางสู่ โดฮา โดยเที่ยวบิน QR 837
05.15 น. เดินทางถึง โดฮา เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง
07.40 น. ออกเดินทางสู่ ลิสบอน โดยเที่ยวบิน QR 341
13.35 น. เดินทางถึง กรุงลิสบอน (Lisbon) เมืองหลวงของโปรตุเกสตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเตจู้ (Tejo)
บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าชม วิหารเจโรนิโม (Jeronimos Monastry Church) วิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 16 โดยกษัตริย์แมนนูเอลที่ 1 องค์สำคัญที่สุดที่สร้างชื่อเสียงให้โปรตุเกส ผู้ซึ่งประสบความสำเร็จจากการส่งนักเดินเรือล่องมหาสมุทรเพื่อค้นพบแผ่นดินใหม่ในโลกและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะเป็นที่ฝังศพของวาสโก ดากามา นักเดินเรือท่องโลกผู้ยิ่งใหญ่ของโปรตุเกส ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นถึง 70 ปี จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์ และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าให้เป็นมรดกโลก
| พิเศษ หัวหน้าทัวร์จัดให้ท่านได้ทานขนมทาร์ตไข่ (Portuguese egg tart) สูตรดั้งเดิมเกือบ 200 ปี คิดค้นโดยนักบวชคาธอลิกที่วัน Mosteiro dos Jeronimos ในนครหลวงลิสบอน ในสมัยศตวรรษที่ 18 ที่ต้องหาวิธีนำไข่แดงที่เหลือในวัดแต่ละวันเป็นจำนวนมาก มาทำอาหารให้มากที่สุด เนื่องจากสมัยนั้นเสื้อผ้านักบวชจะลงแป้งด้วยไข่ขาว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ไข่แดงกลายเป็นส่วนประกอบในขนมโปรตุเกสทุกอย่าง อาทิ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง รวมถึงทาร์ตไข่ ขนมสุดพิเศษนั่นเอง สูตรการทำทาร์ตไข่ หรือที่ภาษาโปรตุเกส เรียกว่า “Pastel de nata” นั้นเก็บงำเป็นความลับในวัดจนถึงปี 1834 ที่วัดถูกปิดตัวลง เนื่องจากการปฏิวัติภายในศาสนาคริสต์ เหล่านักบวชจึงขายสูตรให้แก่โรงฟอกน้ำตาลแถววัด ซึ่งซื้อสูตรมาเปิดร้านขายขนมเฉพาะ ชื่อว่า Fabrica de Pasteis de Belem เปิดในปี 1837 โดยลูกหลานของเจ้าของร้านยังคงขายทาร์ตไข่นี้เรื่อยมาจนปัจจุบัน และเป็นที่นิยมด้วยความหอมจากอบเชยและน้ำตาลผง |
แวะถ่ายรูป หอคอยบีเล็ม (Belem Tower) เดิมสร้างไว้กลางน้ำ เพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออก เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจและค้นพบโลกของวาสโก ดากามาและนักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ที่สวยงาม
ชมทัศนียภาพของแม่น้ำเตจู้ (Tejo) ที่ไหลผ่านใจกลางเมืองลิสบอน เป็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่ไพศาลราวกับทะเล และยิ่งกว่านั้นโปรตุเกสถูกโอบล้อมด้วยชายหาดยาวกว่า 170 กม.ของผืนมหาสมุทรแอตแลนติก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Holiday Inn Lisbon Continental หรือเทียบเท่า
DAY 3
ลิสบอน – โคอิมบรา - พอร์โต้
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
(ลิสบอน – โคอิมบรา ระยะทางประมาณ 204 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม.)
นำท่านเดินทางสู่เมืองเล็กๆที่อยู่ระหว่างกรุงลิสบอนและพอร์โต้ ที่มีชื่อว่า เมืองโคอิมบรา (Coimbra) เมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องความเป็นเมืองมหาวิทยาลัย ชม จัตุรัสลาร์โก ดา พอร์ตาเกม ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่งดงามในแบบโปรตุเกส ทั้งรูปปั้นและอาคารที่แต่งแต้มให้โคอิมบราเป็นเมืองที่สดใส ผ่านชมสถานที่สำคัญของเมือง ศาลาว่าการ อาคารบ้านเรือน โบสถ์สไตล์บาร็อค หอนาฬิกา หอสมุดที่เก่าแก่ที่สุดของโปรตุเกส มหาวิทยาลัยโคอิมบรา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศโปรตุเกส สร้างโดยพระเจ้าจอห์นที่ 3 ซึ่งพระองค์ทรงสนับสนุนด้านการศึกษาในโปรตุเกส นำท่านชมย่านเมืองเก่า ซึ่งมีตึกเก่าที่ยังคงได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
(โคอิมบรา - พอร์โต้ ระยะทางประมาณ 124 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. 20 นาที)
บ่าย เดินทางสู่ เมืองพอร์โต้ (Porto) หนึ่งในเมืองศูนย์กลางเก่าแก่ของยุโรป ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดูว์โรทางเหนือของโปรตุเกส เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศโปรตุเกส และเมืองท่าที่สำคัญ และมีชื่อเสียงอย่างมากทางด้านไวน์ซึ่งเป็นแหล่งน้ำเมาชั้นดีของคนที่รักการดื่ม ด้วยปัจจัยเหล่านี้ องค์การยูเนสโกจึงได้ขึ้นทะเบียนเมืองปอร์โต้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ.1996
ชม ย่านเขตท่าเรือเก่า ที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองมากในอดีต ปัจจุบันได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ชมย่านจัตุรัสใจกลางเมือง และ ที่ว่าการเมือง โบสถ์เก่าแก่ประจําเมือง ปราสาท และอาคารบ้านเรือน
ชม โบสถ์เซนต์ฟรานซิส (Church of Sao Francisco) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 โบสถ์ที่ผสมผสานรูปแบบสไตล์โกธิคและบาร็อคไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ประดับด้วยทองคำกว่า 200 กิโลกรัมตามแท่นบูชา เสาและเพดาน ทองอร่าม จุดเด่นอย่างหนึ่งของโบสถ์ คือ Tree of Jeesse ซึ่งเป็นไม้แกะสลักปิดทอง เป็นรูปสายตระกูลของพระเยซู ตามความเชื่อในพระคัมภีย์
ชม อาคารตลาดหลักทรัพย์ (Palacio da Bolsa) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 สร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค ภายในอาคารที่ประดับตกแต่งได้อย่างงดงาม ในอดีตเคยเป็นหัวใจหลักทางเศรษฐกิจและการค้าของเมืองพอร์โต
ชม Livraria Lello ร้านหนังสือที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลกและเป็นสถานที่ที่สร้างแรงบันดาลใจในการเขียนแฮร์รี่ พอตเตอร์ นวนิยายแฟนตาซี ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักทั่วโลกของ เจ. เค. โรว์ลิง Livraria Lello คือร้านหนังสือที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1881 ปัจจุบันมีอายุ 137 ปี ตั้งอยู่ในเมืองโปร์ตู (Porto) ประเทศโปรตุเกส เมืองที่ยูเนสโก (UNESCO) คัดเลือกและขึ้นทะเบียนเป็นให้เป็นเมืองมรดกโลก ในปี ค.ศ. 1996
นำท่าน ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกที่แม่น้ำโดรู (Douro River)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม AC Porto by Marriott หรือเทียบเท่า
DAY 4
พอร์โต้ - กีมาไรซ์ – วีล่า เรียล - วีเซล
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
(พอร์โต้ - กีมาไรซ์ ระยะทางประมาณ 56 กม. ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองกีมาไรช์ (Guimaraes) เมืองอันเป็นสถานที่ประสูติของกษัตริย์ดอม อฟองโซ เฮนริค (Dom Afonso Henriques) ซึ่งในอดีตเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโปรตุคาเล่ หรือโปรตุเกสในปัจจุบัน เมืองนี้ได้ขึ้นจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ซึ่งเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์การเกิดชาติโปรตุเกส
เข้าชม จตุรัส Oliveira (Largo da Oliveira) ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองกีมาไรช์ เป็นหนึ่งในสถานที่สวยงามที่สุดในเมือง รายล้อมไปด้วยอาคารบ้านเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมไปถึงร้านอาหาร ร้านกาแฟ เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวชมเมืองเป็นจำนวนมาก
ชม ปราสาทกิมาไรช์ (Guimaraes Castle) ปราสาทยุคกลางที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 10 โดย Mumadona Dias เคาน์เตนแห่งโปรตุเกส เพื่อปกป้องเมืองจากการโจมตีของชาวมัวร์และชาวนอร์แมน ซึ่งปัจจุบันปราสาทแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ วิล่า เรียล (Vila Real)
(กีมาไรซ์ – วิล่า เรียล ระยะทางประมาณ 86 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. 10 นาที)
นำท่านชม พระราชวัง (Mateu Palace & Garden) พระราชวังเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18ออกแบบสไตล์บาร็อคผสมผสานกับร็อคโคโค่ โดยสถาปนิกที่ชื่อว่า Nicolau Nasoni เป็นศิลปินชาวอิตาเลียน
(วิล่า เรียล - วีเซว ระยะทางประมาณ 98 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. 20 นาที)
เดินทางสู่ เมืองวีเซว (Viseu) เป็นเมืองที่มีการเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านโทรคมนาคมอุตสาหกรรม การค้า และการศึกษา ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ-กลางของประเทศโปรตุเกส เชื่อมระหว่างเมืองท่าทางทะเล อาไวรู กับเมืองกวาร์ดา เมืองชายแดนโปรตุเกส-สเปน และเมืองซาลามังกาของสเปน
นำท่านเดินทางสู่ Castelo de Vide / นำท่านถ่ายรูปกับ ปราสาทและป้อมปราการยุคกลาง ซึ่งเป็นสถานที่กำเนิดของ Pedro Alvares Cabral ผู้ค้นพบทวีปอเมริกาใต้
นำท่านเดินทางสู่ เบลมอนเต (Belmonte) เมืองแห่งชนชาติยิวบนคาบสมุทรไอบีเรีย ซึ่งพบหลักฐานการตั้งรกรากตั้งแต่ยุคกลางจนกระทั่งศตวรรษที่ 13 มีการขับไล่ชาวยิวออกจากโปรตุเกสแต่ก็ยังมีบางกลุ่มที่หลบซ่อนและยังคงตั้งรกรากมาอย่างยาวนานที่เบลมอนเตจนกระทั่งปัจจุบัน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Pousada Convento de Belmonta หรือเทียบเท่า
DAY 5
วีเซว - เบลมอนเต - เอโวล่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
( วีเซว - เบลมอนเต ระยะทางประมาณ 101 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. 20 นาที)
ชม พิพิธภัณฑ์ชาวยิว (Jewish Museum) แหล่งรวบรวมความเป็นมาของชนชาติยิวในโปรตุเกส
ชม พิพิธภัณฑ์น้ำมันมะกอก (Museu do Azeite) แหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำน้ำมันมะกอก แบบ Belmonte Lagar (* พิพิธภัณฑ์น้ำมันมะกอกปิดทุกวันจันทร์)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
( เบลมอนเต - เอโวล่า ระยะทางประมาณ 261 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม. 55 นาที)
บ่าย เดินทางสู่ เมืองเอโวล่า (Evora) หนึ่งในเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก เมืองนี้ยังคงได้รับการดูแลรักษาร่องรอยของสถาปัตยกรรม ที่มีมาตั้งแต่สมัยโรมัน
ชม จัตุรัสกิรัลโด (Giraldo Square) ศูนย์กลางที่สำคัญของเมือง และเป็นที่ตั้งของลานน้ำพุที่สร้างแบบศิลปะยุคเรอเนสซอง ในปี ค.ศ.1556 อิสระให้ท่านเดินเล่นและถ่ายภาพความประทับใจและเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัยนำท่านชม วัดโรมันแห่งเอโวร่า (Roman Temple) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการขยายอิทธิพลของโรมันในดินแดนของโปรตุเกส / ชม โบสถ์เซนต์ฟรานซิส (St. Francis Church) ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองเก่า โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 / ชม โบสถ์โครงกระดูก (Chapel of Bones) สร้างขึ้นจากกลุ่มนักบวชฟรานซิสกันในศตวรรษที่ 16 ซึ่งนำโครงกระดูกมาจากสุสานต่างๆรอบเมือง ในช่วงที่มีการขยายและต่อเติมเมือง มีโครงกระดูกทั้งนักบวชและแม่ชี รวมถึงประชาชนทั่วไปกว่า 5,000 ร่าง Tra
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Vila Gale Evora หรือเทียบเท่า
DAY 6
เอโวล่า - ฟารู
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
(เอโวล่า - ฟารู ระยะทางประมาณ 287 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม. 50 นาที)
เดินทางสู่ เมืองฟารู (Faro) เป็นเมืองทางใต้สุดบนของประเทศโปรตุเกส
นำท่านถ่ายรูปกับ โบสถ์แซ่ (Se Cathedral) เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สุดของเมืองมีอายุกว่าพันปี ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณปราสาทโบลซ่า และชมทัศนียภาพที่งดงามของเมืองฟารู
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เข้าชม อาร์โก ดาวิลา (Arco Vila) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในฟาโรอดีตประตูสู่เมืองอาร์โกดาวิลาตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของถนน Jardim manuel bivar สร้างโดยสถาปนิก Francisco Xavier Fabri การตกแต่งซุ้มประตูเป็นรูปปั้นของนักบุญโทมัสอาควินัสซึ่งถือว่าเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของฟาโร
ชม The Macabre ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 โดยนักบวช Franciscan บริเวณข้างในโบสถ์มีแสงเข้าสู่ช่องเล็ก ๆ สามช่องทางด้านซ้าย ผนังและเสาแปดเสาตกแต่งด้วยกระดูกและกะโหลกศีรษะที่จัดเรียงอย่างระมัดระวังด้วยซีเมนต์ เพดานทำจากอิฐทาสีขาวและทาสีด้วยลวดลายมรณะ จำนวนโครงกระดูกของนักบวชถูกคำนวณเป็นประมาณ 5,000 มาจากสุสานที่ตั้งอยู่ภายในโบสถ์หลายสิบโหล กะโหลกบางส่วนถูกขีดเขียนด้วยกราฟฟิตี ผึ่งให้แห้งสองศพซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเด็กอยู่ในกรณีแสดงแก้ว และที่หลังคาโบสถ์คำว่า "Melior est die mortis nativitatis (วันแห่งความตายดีกว่าวันเกิด)
ชม Jardim Manuel Bivar สวนขนาดเล็กที่เงียบสงบตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือฟาโร ส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัวที่เข้ามาเดินเล่น แต่ในช่วงเวลากลางคืนจะมีความบันเทิงโดยเฉพาะในวันที่มีการจัดนิทรรศการรถจักรยานยนต์เพื่อแสดงสินค้า มีกิจกรรมอื่นๆ ให้ร่วมสนุก และมีคาเฟ่มากมายรอบๆ Jardim Manuel Bivar วิวของต้นไม้และทะเลให้นั่งเพลิดเพลิน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Faro หรือเทียบเท่า
DAY 7
ฟารู – Benagil Cave – ลากอส – ซาเกรส – แหลมเซนท์วินเซนท์ – ฟารู
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
(ฟารู – ลากัว ระยะทางประมาณ 59.4 กม. ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที)
เดินทางสู่ เมืองลากัว (Lagoa) เมืองชายหาดในแคว้นแอลการ์ฟ (Algarve) / นำท่าน ล่องเรือชมถ้ำทะเลริมชายหาดเบนากิล (Benagil Beach) ตั้งอยู่ในคาบมหาสมุทรแอตแลนติก มีหมู่บ้านชาวประมงขนาดเล็ก อาศัยอยู่ และชม Benagil Cave
(ลากัว – ลากอส ระยะทางประมาณ 36.3 กม. ใช้เวลาเดินทาง 27 นาที)
เดินทางสู่ เมืองลากอส (Lagos) เป็นเมืองที่มีชายหาดที่งดงามมีชายหาดมากมาย ทอดยาว และ มีหน้าผาที่สวยงาม เมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้ตั้งอยู่ในแคว้นแอลการ์และเคยเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวกระทำความเสียหายใน ปี 1755 เมื่อท่าเรือน้ำที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชมทัศนียภาพ เมืองลากอส (Lagos)
(ลากอส – ซาเกรส ระยะทางประมาณ 32.8 กม. ใช้เวลาเดินทาง 33 นาที)
เดินทางสู่ เมืองซาเกรส (Sagres) / ชม แหลมเซนท์วินเซนท์ (Cape St.Vincent) แหลมที่ตั้งอยู่สุดขอบตะวันตกเฉียงใต ้ของประเทศโปรตุเกส ที่ว่ากันว่าเปรียบเสมือนสุดขอบเขตของ โลก เพราะเป็นที่ๆ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) นักเดินเรือที่มีชื่อเสียงของโลกได้ออกเดินทางไปค้นหาโลกใหม่และเป็นจุดที่พระอาทิตย์ตกดินหายลับไปกับท้องมหาสมุทร
นำท่านชม ป้อมปราการ (Fortaleza de Sagres) ป้อมประจำเมืองซาเกรสในอดีต
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
(ซาเกรส – ฟารู ระยะทางประมาณ 116 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. 30 นาที)
--------------- นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองฟารู ---------------
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Faro หรือเทียบเท่า
DAY 8
ฟารู – ซินทรา – แหลมโรคา - ลิสบอน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
(ฟารู - ซินทรา ระยะทางประมาณ 300 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม. 50 นาที)
เดินทางสู่ เมืองซินทรา (Sintra) อีกหนึ่งเมืองตากอากาศยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เป็นที่ตั้งของพระราชวังที่สวยงามที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลก ความร่มรื่นของเขตอุทยานเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดของชาวเมือง เป็นอีกเมืองที่มีสถาปัตยกรรมที่ค่อนข้างมีความโดดเด่นของแคว้นแกรนด์ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เข้าชม พระราชวังแห่งชาติเปนา (Royal Pena National Palace) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมของเมืองซินตร้า ซึ่งนับตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1910 พระราชวังแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองซินตร้าอีกแห่งที่ต้องมาเยือน
ชม แหลมโรก้า (Cabo Da Roca) จุดตะวันตกสุดของยุโรป ท่านสามารถซื้อ Certificate เป็นที่ระลึก สำหรับการมาเยือน ณ ที่แห่งนี้ อิสระให้ท่านถ่ายรูป
เดินทางสู่ เมืองเอสโตริล (Estoril) ที่ได้รับสมญานามร่วมกับอีกสองเมืองคือคาสกายและซินทรา ว่าเป็น Golden Triangle เมืองตากอากาศที่เต็มไปด้วยความสวยงามชองไม้ดอกแนวต้นปาล์มและคลาสสิคด้วยรีสอร์ทตากอากาศสีพาสเทล อิสระให้ท่านชมเมืองที่มีบรรยากาศสวยงามตามธรรมชาติ และชมทัศนียภาพ
ริมชายฝั่งทะเล / นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองลิสบอน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Holiday Inn Lisbon Continental หรือเทียบเท่า
DAY 9
ลิสบอน – โดฮา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ชม บริเวณเมืองเก่าลิสบอน “โอลด์ซิตี้” และ จัตุรัสการค้า (Praca Do Comercio) สร้างขึ้นในสมัยมาร์ควิส เดอ ปอมแปล (Marques Depombal) เป็นนายกรัฐมนตรี / ผ่านชม สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในยุโรป ซึ่งสะพานนี้มีชื่อว่า Ponte 25 Abril (ซึ่งวันที่ 25 เม.ย. 1974 ได้เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองมาสู่ระบอบประชาธิปไตย) / ผ่านชม อนุสาวรีย์เจ้าชายเฮนรี่ (Prince Henry the Navigator Monument) ผู้มีพระสมัณญานามว่า เจ้าชายเฮนรี่ นาวิกบุรุษ (Henry The Navigator)
------------- นำท่านเดินทางสู่สนามบิน -------------
14.45 น. ออกเดินทางสู่ โดฮา โดยเที่ยวบินที่ QR 342
23.55 น. เดินทางถึง โดฮา เพื่อแวะเปลี่ยนเที่ยวบิน
DAY 10
ดูไบ – กรุงเทพฯ
01.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ QR 980
12.55 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
ราคาเริ่มต้นที่
118,000.- บาท / คน
ช่วงเวลาเดินทาง
กำหนดวันที่เดินทาง
10 – 19 เม.ย.63
01 – 10 พ.ค.63
12 – 21 มิ.ย.63
24 ก.ค. – 02 ส.ค. 63
07 – 16 ส.ค. 63
18 – 27 ก.ย. 63
09 – 18 ต.ค. 63
13 – 22 พ.ย. 63
04 – 13 ธ.ค. 63
25 ธ.ค. – 03 ม.ค. 64
ดาวน์โหลด
02-678-6088





เซอร์เบีย
บอสเนีย
ฮังการี
จอร์เจีย
มอนเตรเนโกร
โครเอเชีย
ไอซ์แลนด์
สเปน
ฝรั่งเศส
กรีซ
โปแลนด์
โปรตุเกส
โรมาเนีย
รัสเซีย
สวิตเซอร์แลนด์
ฟินแลนด์
ตุรกี
อังกฤษ
ออสเตรีย
นอร์เวย์
เยอรมนี
เบลเยียม
เนเธอร์แลนด์
อิตาลี
เช็ก
ลิทัวเนีย
ลัตเวีย
เอสโตเนีย
บัลแกเรีย
เดนมาร์ก
สวีเดน
ยุโรป บอลติก
ยุโรป สแกนดิเนเวีย
เลบานอน
จอร์แดน
ดูไบ
คิวบา
สหรัฐอเมริกา
เม็กซิโก
แคนาดา
เอธิโอเปีย
แอฟริกาใต้
เคนยา
โมร็อกโก
อียิปต์
นามิเบีย
บอตสวานา
แซมเบีย
ภูฏาน
ปากีสถาน
เนปาล
ออสเตรเลีย
นิวซีแลนด์
ญี่ปุ่น
เกาหลีใต้
อินเดีย
จีน
ฮ่องกง
มาเก๊า
เวียดนาม
สิงคโปร์
ไต้หวัน
อิหร่าน
เปรู
อาเจนติน่า
บราซิล



02-678-6088
02-678-6100

